Category Archives: สาระความรู้

แก้ปัญหา แอร์เหม็นอับ

แอร์เหม็นอับ

ปัญหา แอร์เหม็นอับ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งหลายครั้ง ก็เป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ แม้เรียกช่างแอร์ทั่วไปๆ มาดำเนินการหลายครั้งก็ไม่สามารถแก้ปัญหาให้หายได้ ซึ่งสร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ผู้ใช้งานเครื่องปรับอากาศ อยู่เสมอ

วันนี้  OF Air ในฐานะผู้ให้บริการ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์ โดย จึงอนุญาติเล่าถึงสาเหตุ และวิธีการแก้ไข แบบวิทยาศาสตร์ ที่ได้ผลจริง จากประสบการทำงานของช่างแอร์ โดยวิศวกรของเรา ให้ท่านสมาชิกให้ฟังครับ

สาเหตุ ของแอร์เหม็นอับ

ปัญหาแอร์เหม็นอับ มักมีสาเหตุมาจาก มีฝุ่น คราบสิ่งสกปรก เชื้อโรคเชื้อรา สะสม อยู่ในแอร์

ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราเปิดแอร์เบาๆ (หมายถึงเปิดแอร์ ในอุณหภูมิสูง 25-27 องศาเซลเซียส) จะมีกลิ่นอับโชยออกมาจากแอร์
แต่ เมื่อเราเปิดแอร์แรงๆ (หมายถึงเปิดแอร์ ในอุณหภูมิต่ำ 15-23 องศาเซลเซียส) ปัญหานี้ก็จะดูเหมือนบรรเทาไป
ซึ่งก็เหมือนเป็นการบังคับให้เรา เปิดแอร์เย็นมากๆซึ่งก็จะทำให้ เสียค่าไฟฟ้ามาก โดยใช่เหตุ

ที่ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นอับ ของแอร์ จะเบาบางลง เมื่อเราเปิดแอร์แรงๆนั้น ก็เพราะว่า
เมื่ออุณหภูมิต่ำๆ การระเหยของกลิ่น จากสิ่งสกปรก จะระเหยได้น้อยลงตามธรรมชาติ
แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น กลิ่นเหม็นก็จะกลับมาระเหยได้ดี เหมือนเดิม ทำให้กลับมามีกลิ่นอีก
ซึ่งสถานการณ์นี้ก็คล้ายๆ กับในตู้เย็นช่องแช่แข็ง ที่มีเนื้อที่มีกลิ่นแรงมากมาย แต่เรากลับไม่ค่อยได้กลิ่น ของเนื้อเหล่านั้น เมื่อเราเปิดช่องแช่แข็งนั้น

ปัญหานี้สามารถแก้ได้โดย ล้างทำความสะอาด สิ่งสกปรกฝุ่นเชื้อโรคเชื้อราที่สะสมอยู่ออกไป

ทำไม ล้างแอร์เป็นประจำ แอร์ก็ยังเหม็น

การล้างแอร์แบบทั่วไปเริ่มต้นที่ 600 บาท/เครื่อง ที่เปิดฝาหน้าแอร์แล้วฉีดน้ำล้างทำความสะอาด รังผึ้งและรางระบายน้ำด้านหน้านั้น จะไม่สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรก ที่ตกค้างสะสมอยู่รั่งผึ้งและรางระบายน้ำด้านหลังได้ ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุ ของ กลิ่นเหม็นอับดังกล่าวได้ จึงเป็นที่มา ว่า “ทำไมล้างแอร์ทุก 6 เดือน อยู่แล้ว แอร์ถึงยังมีกลิ่นเหม็นอับอยู่?”

แอร์เหม็นอับ 5
แอร์เหม็นอับ 7
แอร์เหม็นอับ 8
แอร์เหม็นอับ 10
แอร์เหม็นอับ 11
แอร์เหม็นอับ 15

วิธีการแก้ปัญหา แอร์เหม็นอับ

ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุด คือ การล้างแอร์แบบตัดล้าง (หรือที่เรียกว่า ล้างใหญ่) ซึ่งจะเป็นการ ตัดแอร์ออกมาทั้งตัว แล้วทำการ แยกชิ้นส่วนต่างๆ ทั้งรังผึ้ง ฝาหน้า ฝาหลัง และรางน้ำด้านหลัง มาทำการฉีดล้างทำความสะอาด ได้ทุกซอกทุกมุม จากทั้งทางข้างหน้า และหลัง
ทั้งนี้ สำหรับส่วนรังผึ้ง ที่เป็นแผงให้ความเย็นนั้น จำเป็นต้องล้างด้วย น้ำยาแบบพิเศษ เพื่อกัดสิ่งสกปรก เชื้อโรคเชื้อรา ทั้งหลายออกมาจากรังผึ้ง และ ล้างน้ำ

ซึ่งการล้างแอร์แบบตัดล่าง จะเป็นการ ตัดส่วนคอยล์ร้อนกับส่วนคอยล์เย็นออกจากกัน คล้ายๆกับการติดตั้งแอร์ใหม่ ซึ่งจะทำให้ สูญเสียน้ำยาแอร์ไปบางส่วน อีกทั้ง การตัดล้างนั้น มีขั้นตอน ในการล้าง มากกว่าการล้างแอร์แบบทั่วไป ทำให้ ทำให้ค่าบริการล้างแอร์แบบตัดล้าง เริ่มต้นที่ 1,600 บาท/เครื่อง ซึ่งจะสูงกว่าล้างแอร์แบบทั่วไปมาก ล้างแอร์ใหญ่

แอร์เหม็นอับ 9
แอร์เหม็นอับ 7
แอร์เหม็นอับ 14

การป้องกันปัญหา แอร์เหม็นอับ

ดังนั้น โดยทั่วไป เพื่อป้องกันปัญหาแอร์เหม็นอับ เราจึงควรจะล้างแอร์แบบทั่วไป ทุก 3-6เดือน เพื่อล้างฝุ่นละอองสะสมออกไปบ้าง เพื่อให้แอร์ประหยัดไฟ
ส่วน คราบสิ่งสกปรก เชื้อโรคเชื้อรา ที่จะนำมาซึ่งปัญหากลิ่นเหม็นอับนั้น นั้น ทุก 3-5ปี ก็ควรจะล้างแอร์แบบตัดล้าง สักครั้งนึง

สรุปปัญหา แอร์เหม็นอับ

ปัญหาแอร์เหม็นอับ เกิดจาก เศษฝุ่น สิ่งสกปรก เชื้อโรคเชื้อรา สะสมอยู่ในแอร์ ส่วนด้านหลัง ซึ่งการล้างแอร์แบบทั่วไป ไม่สามารถล้างออกได้ ดังนั้น จึงต้องใช้การล้างแอร์แบบตัดล้าง เพื่อการแก้ปัญหานี้

จองคิวล้างแอร์ใหญ่ตอนนี้

ทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้การสร้างสรรค์ โดย
กอสิน ศุภฤทธิธำรง : OF Air
29 มกราคม 2565
ผู้ใด ละเมิด ทำซ้ำ เลียนแบบ โดยไม่ได้รับอนุญาต
มีโทษตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

วิธีเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟ เหมาะกับขนาดห้อง

เลือกซื้อแอร์ [ปก][1]

เลือกซื้อแอร์ อย่างไร ?

เทคนิค เลือกซื้อแอร์ ให้ประหยัดไฟ และเหมาะกับขนาดห้อง

เทคนิค เลือกซื้อแอร์ ให้ประหยัดไฟและเหมาะกับขนาดห้อง

OFair แนะนำการ เลือกซื้อแอร์ ไม่ว่าจะหยุดพักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ หรือ Wrok Form Home  ก็ตามแต่ ที่แน่ๆคือ แอร์ต้องเปิดในช่วงนี้ ไม่งั้นอยู่ไม่ได้เพราะมันร้อนเหลือเกิน ถ้าไม่เปิดแอร์คงไม่มีสมาธิทำงาน ที่สำคัญตามมาซึ่งค่าไฟที่ต้องจ่ายตอนสิ้นเดือน ต่อให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือค่าไฟ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เท่าไหร่

จะเป็นการดีกว่าหากเลือกใช้เครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับขนาดห้องและประเภทการใช้งาน เรามาดูกันดีกว่าเลือกซื้อแอร์ต้องคำนึงกี่เรื่อง อะไรบ้าง ?

เลือกซื้อแอร์ อย่างไร

เลือกซื้อแอร์ BTU คืออไร ?

BTU ย่อมาจาก British Themal Unit คือขนาดความสามารภการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ

โดย 1 ตันความเย็น = 12000 BTU

แอร์มีกี่ประเภท

แอร์แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Econo Air และ Inverter Air ซึ่งก็จะมีหลักการทำงานที่ต่างกัน และใช้กับรูปแบบห้องที่ไม่เหมือนกัน

1. Econo Air 

อีโคโน แอร์ เป็นแอร์ระบบธรรมดา มีลักษณะการทำงานจะเป็นแบบกำหนดอุณหภูมิคงที่ (Fixed Speed) กล่าวคือ ถ้าตั้งค่าความเย็นไว้ที่อุณหภูมิ 25 องศา คอมเพรสเซอร์ จะตัดการทำงานต่ำกว่าค่าอุณหภูมิที่ผู้ใช้ตั้งไว้ 1-2 องศา (ที่อุณหภูมิ 23-24 องศา) เพื่อให้ความรู้สึกเย็นฉ่ำตลอดเวลา และเมื่อเวลาที่อุณหภูมิห้องสูงขึ้น คอมเพรสเซอร์ ก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการทำงานแบบ 100%

แอร์ประเภทนี้ที่ช่องประหยัดไฟเบอร์ 5 จะมีตัวอักษร EER (Energy Efficiency Ratio) ที่ช่องประสิทธิภาพ จะมีตัวเลขเขียนไว้ ยิ่งตัวเลขสูง ยิ่งประหยัดไฟมากนั่นเอง ข้อเสียของ Econo Air เวลาคอมเพรสเซอร์ตัดการทำงานเพราะอุณหภูมิได้ระดับแล้วนั้น เมื่ออุณหภูมิกลับมาเกินระดับที่ตั้งไว้ 1-2 องศา คอมเพรสเซอร์ก็จะเริ่มทำงานอีกครั้งทำให้เปลืองไฟเสมือนรถวิ่งแล้วจอดเรื่อย ๆ

ที่สำคัญเมื่ออากาศสลับเย็น ร้อนไม่คงที่ตลอดเวลาแบบนี้ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เวลานอนอาจหลับๆ ตื่นๆได้ทั้งยังมีเสียงดังจากการกระชากไฟทุกครั้งเมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงาน

2. Inverter Air 

อินเวอร์เตอร์ เป็นแอร์ที่ปรับอุณหภูมิได้ด้วยตัวเองตามสภาพแวดล้อม จะมีตรวจจับอุณหภูมิอยู่หลายตัวทำให้ได้ค่าที่แม่นยำ ความเย็นในห้องจะเสถียรกว่า ระบบการทำงานของ Inverter Air คอมเพรสเซอร์จะเริ่มทำงานที่ 120% และเมื่อห้องมีอุณหภูมิลดลงตามผู้ใช้กำหนดคอมเพรสเซอร์ก็จะไม่หยุดการทำงานเพียงแต่จะลดรอบการทำงานลงทำให้ไม่กินไฟเหมือนกับ Econo Air ไม่เกิดการกระชากไฟ เครื่องทำงานเงียบ อุณหภูมิเย็นสม่ำเสมอ

เทคนิคการเลือกซื้อแอร์ ?

เมื่อเราทราบแล้วว่าแอร์มี 2 ประเภทหลักๆ แต่การเลือกซื้อแอร์นั่นยังมีตัวประกอบการตัดสินใจอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่

1. ขนาดห้อง

11-14 ตร.ม = 9000 BTU
14-18 ตร.ม = 12000 BTU
21-27 ตร.ม = 18000 BTU
25-32 ตร.ม = 21000 BTU
28-36 ตร.ม = 24000 BTU
30-39 ตร.ม = 25000 BTU
35-45 ตร.ม = 30000 BTU
42-54 ตร.ม = 35000 BTU
56-72 ตร.ม = 48000 BTU

2. ประเภทการใช้ของห้อง

สำหรับห้องนอน หรือห้องที่ไม่มีการเข้าออกบ่อย ๆ ควรเลือกใช้แอร์ระบบ
Inverter Air
ส่วนห้องที่มีการเข้าออกบ่อยๆ เช่น ห้องรับแขก ออฟฟิศ โชว์รูมสินค้า หรือห้องที่มีความผันแปรของอุณหภูมิมากกว่าควรเลือกใช้
Econo Air

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

น้ำแอร์มีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ?

รู้หรือไม่ ?

น้ำยาแอร์ มีอายุการใช้งานเท่าไหร่ ?

จำเป็น .. ต้องเติม น้ำยาแอร์ ไหม ?

ลูกค้าหลายๆท่านที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเติม น้ำยาแอร์ ยังมีความสงสัยว่าต้องเติมน้ำแอร์ไหม ต้องเติมน้ำยาแอร์ตอนไหน น้ำยาแอร์หายไปได้ยังไง แอร์ไม่เย็นเติมน้ำยาแอร์เข้าไปเลยได้หรือป่าว หรือหลายๆครั้งที่ลูกค้าต้องตกเป็นเหยื่อของช่างแอร์ในคราบโจรที่หลอกเติมน้ำยาแอร์ให้เราไปบ้าง

หากว่าลูกค้าท่านไหนมีความสงสัยแบบนี้อยู่ วันนี้ผมจะมาเจาะลึกว่าเราควรเติมน้ำยาแอร์ หรือไม่!! กันครับ

ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าน้ำยาแอร์เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้แอร์บ้านของเรามีความเย็นออกมา หากขาดสิ่งนี้ไปแอร์บ้านของเราก็อาจจะไม่มีความเย็นออกมา หรืออาจจะเป็นปัจจัยอื่นๆที่ทำให้แอร์ไม่เย็นก็เป็นได้ จะว่าไปแล้วระบบน้ำยาของแอร์บ้านโดยทั่วไปแล้วเราเรียกกันว่า ระบบกึ่งปิดกึ่งเปิด ซึ่งไม่ใช่ระบบปิดที่สมบูรณ์ ซึ่งนั้นก็ทำให้ระบบน้ำยามีโอกาสที่จะรั่ว หรือซึมออกไปได้ ไม่แปลกอะไรครับ แต่ .. เดี๋ยวก่อนครับ ไม่ใช่ว่าแอร์ทุกเครื่องจะมีโอกาสรั่ว หรือซึมเหมือนกันทั้งหมด หากได้รับการติดตั้งที่ดี ผลิตภัณฑ์ที่ดี โอกาสที่น้ำยาแอร์จะรั่ว หรือซึมหายไป ก็เป็นไปได้น้อยมากครับ

น้ำยาแอร์เติมแล้วใช้งานได้นานเท่าไหร่ น้ำยาหมดมีจริงไหม ?

     มาถึงคำถามที่หลายคนอยากรู้ นั่นก็คือเรื่องของการเติมน้ำยาแอร์ ว่าเราควรจะเติมน้ำยาแอร์บ่อยแค่ไหน บางคนบอกว่าน้ำยาแอร์โดยปกติแล้วไม่ต้องเติมกันบ่อยๆ สาเหตุที่ต้องเติมบ่อยเนื่องมาจากระบบทำงานผิดปกติหรือเกิดอาการรั่วเสียมากกว่า วันนี้เราจะมาไขข้อข้อใจและข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาการเติมน้ำยาแอร์กัน

     ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องของการเติมน้ำยา มาเริ่มกันที่การทำความเข้าใจกับระบบการทำงานของเครื่องปรับอากาศที่เราเรียกว่าแอร์กันก่อน แอร์นั้นประกอบด้วยระบบการทำงาน 3 ส่วน คือ คอนเดนซิ่ง คอมเพรสเซอร์ และที่ช่วยควบคุมการระเหย โดยทั้ง 3 ส่วนต้องทำงานประกอบกันเป็นปกติถึงจะทำให้เกิดความเย็นได้ โดยใช้สารให้ความเย็นที่เรียกว่าน้ำยาแอร์เปลี่ยนให้อากาศร้อนจากภายนอกเป็นของเหลวก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นอากาศเย็นส่งผ่านออกไปอีกขั้นตอนหนึ่ง ส่วนคอมเพรสเซอร์กับคอนเดนซิ่งก็คือส่วนของแอร์ที่มีพัดลมวางอยู่ข้างนอก ทำหน้าที่เปลี่ยนอากาศภายนอกที่มีความดันต่ำเป็นของเหลวด้วยความดันสูงไหลเข้าสู่คอนเดนซิ่งเพื่อกรองเอาความร้อนจากของเหลวออกไปไม่ให้เกิดการระเหย จากนั้นของเหลวจะไหลต่อเข้าไปที่ส่วนควบคุมการระเหยที่อยู่ภายในเปลี่ยนเป็นอากาศเย็นออกมาจากเครื่องปรับอากาศให้เราได้มีอุณหภูมิที่เย็นฉ่ำอย่างสบายกันในทุกวันนั่นเอง

     ส่วนข้อเท็จจริงสำหรับการเติมน้ำยาแอร์คือความระบบน้ำยาแอร์นั้นเป็นระบบปิด โดยปกติแล้วถ้าแอร์ทำงานและให้ความเย็นตามปกติหรือท่อน้ำยาแอร์ไม่รั่วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเติมน้ำยาแต่อย่างใด ส่วนการระเหยของน้ำยาแอร์ที่จะทำให้น้ำยาแอร์มีปริมาณลดลงนั้นก็อาจจะเกิดขึ้นได้แต่ระยะเวลานานมาก คำถามที่ว่าทำไมเวลามีช่างมาล้างแอร์แล้วถึงชอบบอกว่าน้ำยาแอร์ขาดต้องเติมเพิ่มอันนี้จะโดนช่างหลอกใช่หรือไม่ ข้อนี้คำตอบคือทั้งเป็นไปได้และอาจจะโดนหลอกก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นความรู้ที่ควรจะมีไว้ติดตัวอีกอย่าง คือ การตรวจเช็คน้ำยาแอร์ด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่โดนช่างหลอกอีกต่อไป วิธีการก็คือ เปิดแอร์ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีจนแอร์เย็น แล้วไปเช็คตรงตู้คอมเพรสเซอร์ถ้าพัดลมทำงานแล้วมีลดร้อนปล่อยออกมาแสดงว่าแอร์ทำงานตามปกติ ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์ แต่หากลมที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์เย็นแสดงว่าน้ำยาแอร์น้อยหรือคอมเพรสเซอร์ทำงานผิดปกติ อาจจะต้องเรียกว่าแอร์มาตรวจสอบว่ามีน้ำยาแอร์รั่วหรือเปล่า ส่วนการตรวจเช็คอีกวิธีหนึ่งคือให้สังเกตท่อน้ำยาแอร์ด้านนอกว่ามีน้ำแข็งเกาะหรือไม่หากพบว่ามีน้ำแข็งเกาะอาจเป็นไปได้ว่าน้ำยาแอร์ขาดเนื่องจากท่อแอร์รั่วเช่นกัน

     น้ำยาแอร์ก็คือสารเคมีชนิดหนึ่งที่ผสมผสานกันจนกลายเป็นน้ำยา มีคุณสมบัติทำความเย็นได้ ถ้าถามว่าน้ำยาแอร์สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน คำตอบของผมคือ อาจจะนานกว่าอายุแอร์ที่เราใช้อีกครับ หรือว่าแอร์พังแล้ว น้ำยาแอร์ยังอยู่ในระบบเลยครับ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าหากไม่มีการรั่ว หรือมีจุดซึม น้ำยาแอร์ก็สามารถใช้ไปได้นานๆเลยครับ

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

น้ำแอร์หยด เกิดจากอะไร ?

น้ำแอร์หยด

น้ำแอร์หยด เกิดจากอะไร ?

วิธีแก้ไขปัญหา น้ำแอร์หยด น้ำแอร์รั่วไหลเบื้องต้น

ปัญหา น้ำแอร์หยด น้ำแอร์รั่วไหลตามท่อ

ปัญหาน้ำแอร์หยดด้านในนี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยตามบ้านทั่วไป ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มักจะพาความรำคาญจากความเปียกชื้น และยังอาจทำให้เกิดอันตรายจากไฟรั่วได้อีก สาเหตุที่ทำให้น้ำแอร์หยดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน วันนี้เราจะมาแนะนำถึงสาเหตุและวิธีแก้ไข ในกรณีที่เกิดน้ำแอร์หยดครับ

สาเหตุ

1. เกิดจากถาดหรือท่อทิ้งน้ำนั้นตัน ทำให้น้ำที่เกิดจากกระบวนการฟอกอากาศ ไม่สามารถระบายออกไปได้ จึงล้นและไหล ย้อนกลับมา กลายเป็นน้ำที่หยดซึมมาจากตัวแอร์ในที่สุด

2. ถาดคอยล์ด้านหลังของแผงคีบแอร์นั้นเกิดตัน และทำให้เกิดมีหยดน้ำเกาะอยู่นอกตัวแอร์

3. ถาดน้ำทิ้งเกิดการชำรุด เช่นหลุด หรือแตก

4. การเดินท่อภายในของช่างนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้หุ้มท่อไม่ได้มาตรฐาน และเกิดหยดน้ำเกาะรอบๆ ตัวจนหยดออกมานอกตัวแอร์ได้ในที่สุด

6 วิธีแก้ไข ดังนี้

น้ำแอร์หยด 1
1. ควรทำความสะอาดโดยการใช้โบลเวอร์ (Blower)
หรือเครื่องเป่าไฟฟ้า ไล่น้ำออกให้แห้ง โดยบริเวณที่เน้นมากๆ คือท่อน้ำทิ้งและบริเวณปลายท่อ
น้ำแอร์หยด 2

2. แก้ไขโดยการล้างแอร์

ซึ่งหากผู้ใช้งานมีความชำนาญก็สามารถถอดส่วนประกอบ หรือท่อแอร์ออกมาล้างได้เลย หรือหากไม่มีความชำนาญ สามารถเรียกช่างล้างแอร์ที่มีความชำนาญจะดีกว่า
น้ำแอร์หยด 3

3. หากแอร์นั้นมีความสกปรกมาก

เช่นฝุ่นหรือมีคราบสกปรกไปเกาะอยู่จำนวนมาก เครื่องจะระบายความเย็นออกมาไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำแข็งจับและกลายเป็นหยดน้ำออกมานอกเครื่องได้ในที่สุด กรณีนี้ควรติดต่อเรียกช่างแอร์จะดีกว่าครับ เพราะต้องทำการรื้อเครื่องดูจุดที่สกปรกซึ่งอยู่ภายในเครื่องแอร์นั่นเอง
น้ำแอร์หยด 4

4. อีกสาเหตุที่พบได้บ่อยคือน้ำยาแอร์มีน้อยจนเกินไป

หรืออาจเกิดจากการรั่วซึมของน้ำยา ควรติดต่อช่างแอร์โดยด่วน เพราะน้ำยาแอร์นี้เป็นส่วนที่สำคัญต่อการเกิดความเย็น ถ้าหากมีน้อยเกินไปจะทำให้ตัวแอร์นั้นปรับอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจทำให้เครื่องรวนหรือพังไปเลยก็ได้
น้ำแอร์หยด 5

5. ตรวจดูว่าภายในเครื่อง

มีสัตว์จำพวกหนู หรือแมลงเข้าไปอาศัยหรือตายติดอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งสัตว์จำพวกนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการอุดตันของท่อแอร์ภายในเครื่องได้
น้ำแอร์หยด 6

6. ตรวจดูถาดน้ำทิ้ง

หากพบว่าเลื่อน หรือเคลื่อน ควรทำการแก้ไขให้อยู่ในสภาพเดิม
การแก้ปัญหาน้ำแอร์หยดนั้น ทางที่ดีควรติดต่อเรียกช่างแอร์ หรือคนที่มีความชำนาญจะดีกว่า
เพราะส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องของทางเทคนิค และเครื่องแอร์นั้นก็มีความซับซ้อนมาก
หากไม่ชำนาญหรือไม่เคยรื้อเครื่องมาก่อน อาจทำให้เกิดความเสียหายได้

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

5 วิธีแก้ปัญหา แอร์ไม่เย็น ด้วยตัวเอง

แอร์ไม่เย็น xd

5 วิธีแก้ปัญหา แอร์ไม่เย็น

แก้ปัญหา แอร์ไม่เย็น เบื้องต้นด้วยตัวเอง

แอร์ไม่เย็น แก้ปัญหาอย่างไร ?

การแก้ปัญหาเบื้องต้นแอร์ไม่เย็น

เคยมั้ยที่ใช้แอร์ไปเรื่อยๆแล้วรู้สึกว่า แอร์ไม่เย็น ทั้งๆที่เพิ่งซื้อมาไม่นาน หรือบางคนเพิ่งจะล้างแอร์ไปด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะทำยังไง ต้องโทรเรียกช่างมั้ย ต้องซื้อใหม่หรือเปล่า ไม่ต้องกังวลใจไป เราต้องดูก่อนว่าสาเหตุที่แอร์ไม่เย็นคืออะไร สามารถแก้ไขเองได้หรือไม่

ทำไมแอร์ถึงไม่เย็น ?

สำหรับปัญหาของแอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ไม่เย็น แอร์เย็นช้า แอร์ไม่ค่อยเย็นหรือเย็นน้อยลงไม่ได้เย็นเจี๊ยบฉ่ำใจเหมือนเมื่อก่อน มันก็มาจากสาเหตุหลายประการ เช่น อาจจะมีการปรับรีโมทโดยที่ไม่รู้ตัวจนทำให้แอร์ไม่เย็น หรือเย็นมากเกินปกติ หรืออาจจะเป็นเพราะคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานหรือทำงานผิดพลาด หรืออาจจะเป็นเพียงน้ำยาแอร์หมดหรือมีน้ำยาแอร์น้อยเกินไป นอกจากนั้นก็ยังมาจากปัญหาใหญ่ๆ  เช่น แอร์มีรอยรั่ว ซึ่งปัญหานี้ทางที่ปลอดภัยก็ควรเรียกช่างมาแก้ไขจะดีกว่า และสาหตุหลักๆ อีกประการ เช่น เรื่องของการปรับโหมด ไปจนถึงแอร์สกปรกเพราะไม่ได้ล้างมานาน

สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น

ไม่เติมน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์เป็นสารที่ช่วยทำความเย็น ถ้าแอร์ไม่เย็นขึ้นมา สาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอ แต่ถ้าเพิ่งเติมน้ำยาแอร์ไม่นานแต่ไม่เย็น ลองสังเกตดูว่ามันรั่วหรือไม่ น้ำยาแอร์ตันหรือไม่ เพราะสาเหตุเหล่านี้ทำให้น้ำยาแอร์ไม่เพียงพอที่จะทำความเย็นนั่นเอง 

ไม่ได้ล้างแอร์นานเกินไป จนทำให้สิ่งสกปรก ฝุ่น รวมไปถึงเชื้อโรคเข้าไปอุดตันคอมเพรสเซอร์แอร์ แอร์จึงไม่สามารถทำความเย็นได้ดีเท่าที่ควร การล้างแอร์ตามเวลาที่เหมาะสมควรทำทุกๆ 4 – 6 เดือน

มีสิ่งกีดขวางทางลมของแอร์ ทางเดินของอากาศเป็นส่วนสำคัญสำหรับกระจายความเย็น เช่น มีฉากกั้นตั้งอยู่ทำให้แอร์ไม่กระจายความเย็น เย็นแค่จุดเดียว

เปิดรีโมทพัดลมโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นโหมดที่มีเพียงลมออกมาเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากไปเปิดโหมดพัดลม ก็จะมีลมออกมาแต่แอร์ก็ไม่ปล่อยลมเย็น

มีคนอยู่ในห้องมากเกินไป เมื่อมีคนอยู่ในห้องมาก ก็มีการแย่งอากาศหายใจ ยิ่งเมื่ออยู่ในหน้าร้อนแบบนี้จึงยิ่งทำให้แอร์เย็นไม่ทันใจ

เมื่อเราทราบถึงสาเหตุของแอร์ไม่เย็นแล้ว เราลองเช็กแอร์ของเราดูก่อนว่าสภาพเป็นอย่างไร การตัดล้าง หรือล้างแอร์ อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่คุณกำลังตามหา

กับวิธีการ 5 เช็กง่ายๆดังนี้

แอร์ไม่เย็น 1

1. เช็กรีโมทแอร์

หลายต่อหลายครั้งที่เราพบว่าสาเหตุที่แอร์ไม่เย็น เพราะตั้งโหมดผิด เมื่อแอร์ไม่เย็น ให้สังเกตที่รีโมทแอร์เป็นอันดับแรกเลยว่าตั้งรีโมทแอร์ในโหมดพัดลมหรือไม่ ถ้าใช่ รีบกลับไปที่โหมด Cool Mode หรือโหมดแอร์ทำงานปกติด่วนๆ เลย

แอร์ไม่เย็น 2

2. เช็กอุณหภูมิสภาพอากาศนอกห้อง

เมื่อเรารู้สึกว่าแอร์ของเรานั้นไม่เย็นเท่าที่ใจต้องการ ลองตรวจดูสภาพแวดล้อมภายนอกห้องด้วยว่าอากาศเป็นอย่างไร อย่างเช่นช่วงนี้เป็นฤดูร้อน อากาศร้อน แอร์จึงไม่อาจทำความแย็นได้เท่าที่เราต้องการ อาจจะต้องลดอุณหภูมิให้เย็นลงมานิดหน่อย แต่ก็ต้องแลกกับค่าไฟที่สูงกว่า

แอร์ไม่เย็น 3

3. เช็กเครื่องกรองอากาศ

ที่ต้องเช็กที่ฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองอากาศของแอร์ (คอยล์เย็น) เพราะเป็นไปได้ว่าอาจจะมีฝุ่นเกาะบังทางลมแอร์อยู่ทำให้แอร์ไม่เย็น ถ้าเจอแบบนี้วิธีแก้คือถอดมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด และตามหลักควรถอดฟิลเตอร์มาล้างทุกสัปดาห์

แอร์ไม่เย็น 4

4. เช็กคอมเพรสเซอร์

แอร์บางยี่ห้อจะมีระบบป้องกันไฟตก ทำให้เวลาไฟจ่ายมาที่ตัวแอร์ (คอยล์เย็น) ทำงานแต่คอมเพรสเซอร์นอกบ้าน (คอยล์ร้อน) ไม่ทำงาน วิธีเช็กว่าคอมเพรสเซอร์ทำงานปกติอยู่หรือไม่ ให้ลองสับเบรกเกอร์ของแอร์ลงแล้วค่อยยกขึ้นกลับมาที่เดิม ถ้าแอร์กลับมาเย็นก็แปลว่าไม่มีปัญหาอะไร

แอร์ไม่เย็น 5

5. เช็กว่าล้างแอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

ถ้าแอร์สกปรกทั้งด้านนอกและด้านใน หรือถ้าไม่เคยล้างแอร์มาเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดคราบฝุ่นสะสมจนเกิดการอุดตันข้างในจนทำให้แอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างเต็มที่ โดยปกติเราควรล้างแอร์ ทุกๆ 4 – 6 เดือน อย่างไรก็ตามสิ่งนี้สามารถเช็กได้ง่ายๆ ด้วยการเปิดหน้ากากแอร์ออก ก็จะเห็นสภาพความสกปรกได้ชัดเจน

> ประโยชน์ของการล้างแอร์ 

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

7 ประโยชน์ ล้างแอร์ OF Air ได้อะไรบ้าง ?

7 ประโยชน์ ล้างแอร์

กับ OF Air ได้อะไรบ้าง ?

7 ประโยชน์ ล้างแอร์ OF Air ได้อะไรบ้าง ?

1. ช่างที่มีประสบการณ์ ยาวนาน ทำงานด้วยมาตรฐานการล้างแอร์ที่ถูกต้อง

2. ช่างมีความปลอดภัย ไม่อันตราย ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม

3. ก่อนเริ่มงาน เราตรวจเช็คสภาพแอร์ทุกครั้ง เพื่อให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลรักษา และการซ่อมบำรุงอย่างถูกวิธี

4. ใส่ใจทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน พิถีพิถันทุกรายละเอียด

5. เก็บกวาดทำความสะอาด ตั้งแต่เริ่มงานจนจบขั้นตอนการทำงาน

6. รับประกันหลังปฏิบัติงาน ถ้าเกิดปัญหาหรือมีข้อบกพร่อง เรายินดีแก้ไข ทุกกรณี

7. มีทีมงานซัพพอร์ต ที่จะคอยตอบคำถามหรือนัดหมายล้างแอร์ตลอดเวลา

1. ช่างที่มีประสบการณ์ ยาวนาน

ทำงานด้วยมาตรฐานการล้างแอร์ที่ถูกต้อง

  • ช่างของเรา มีประสบการณ์ การทำงานที่ยาวนาน มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทางเป็นพิเศษ
  • สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที
  • ตรวจสอบและวิเคราะห์อาการเบื้องต้น เพื่อแจ้งปัญหาที่ตรงจุดให้กับคุณลูกค้า
  • คล่องแคล่ว ว่องไว ทำงานอย่างมืออาชีพ

2. ช่างมีความปลอดภัย ไม่อันตราย

ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม

  • ตรวจประวัติอาญากรรม 100% เพื่อ ความปลอดภัยในทรัพย์สิน ของท่าน
  • พูดจาดี แต่งกายสุภาพ
  • เน้น มารยาท การพูดจา ของทีมช่างแอร์
  • แต่งกายด้วยเครื่องแบบ OF AIR
3. ก่อนเริ่มงาน เราตรวจเช็คสภาพแอร์ทุกครั้งเพื่อให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลรักษา และการซ่อมบำรุงอย่างถูกวิธี

3.1 เริ่มต้นด้วย ตรวจเช็คสภาพ โดยรวม

    • ตรวจเช็ค สภาพภายนอก, ระบบไฟฟ้า, ระบบมอเตอร์, ความเย็นกว่า แอร์ยังทำงานปกติ หรือไม่
    • หากตรวจพบปัญหา จะได้เสนอวิธีการแก้ไข ต่อไป

3.2 ป้องกัน พื้นและเฟอร์นิเจอร์

    • ปูพื้น ด้วยผ้าร่มกันน้ำ และผ้าห่มกันรอย จากบันไดเพื่อป้องกัน พื้นห้อง จากรอยขีดข่วน
    • คลุมแอร์ ด้วยผ้าใบล้างแอร์ เพื่อป้องกัน เฟอร์นิเจอร์ และกำแพง จากสิ่งสกปรก

4. ใส่ใจทุกขั้นตอนการปฏิบัติงานพิถีพิถันทุกรายละเอียด

4.1 ล้างแอร์ ส่วนแผงคอยด์เย็น (ด้านในอาคาร) เปิดฝาครอบ และทำความสะอาด ด้วยน้ำเปล่า

    • ฉีดพ่น แผงคอยด์เย็น ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อฆ่าเชื้อโรค ภายในแอร์
    • ล้าง แผงคอยด์เย็น, ถาดน้ำทิ้ง ด้วยน้ำแรงดันสูง เพื่อขจัดสิ่งสกปรก และล้างน้ำยาฆ่าเชื้อโรคออก
    • เช็ด ชิ้นส่วนภายใน ด้วยผ้าแห้ง เพื่อความสะอาด แห้ง และเรียบร้อย
    • เป่าลม ชิ้นส่วนภายใน ด้วยเครื่องเป่าลม เพื่อไล่ความชื้นออกไปให้หมด
    • ฉีดพ่น แผงคอยด์เย็น อีกครั้ง ด้วยโฟมลดกลิ่นอับ เพื่อป้องกันกลิ่นอับ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
    • ปิดฝาครอบแอร์ และเช็ดทำความสะอาดแอร์ ด้วยผ้าแห้ง เพื่อความเรียบร้อย
    • เก็บกวาด เศษวัสดุ ฝุ่นผง จากการทำงาน
    • เลื่อน เฟอร์นิเจอร์ ตู้ โต๊ะ กลับเข้าตำแหน่งเดิม เพื่อให้สภาพหน้างาน กลับมาเหมือน ก่อนการทำงาน ทุกประการ

4.2 ล้างแอร์ ส่วนแผงคอยด์ร้อน (ด้านนอกอาคาร)

    • ล้าง แผงคอยด์ร้อน ทั้งภายในและภายนอก ด้วยน้ำแรงดันสูง
      เพื่อขจัดฝุ่น และสิ่งสกปรก ออก

5. เก็บกวาดทำความสะอาดตั้งแต่เริ่มงานจนจบขั้นตอนการทำงาน

  • เก็บกวาด อะไหล่ เศษวัสดุ ฝุ่นผง จากการทำงาน ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร
  • เลื่อน เฟอร์นิเจอร์ ตู้ โต๊ะ กลับเข้าตำแหน่งเดิม เพื่อให้สภาพหน้างาน กลับมาเหมือน
    ก่อนการทำงานทุกประการ
6. รับประกันหลังปฏิบัติงานถ้าเกิดปัญหา
หรือมีข้อบกพร่องเรายินดีแก้ไข ทุกกรณี
    • เปิดบริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด
    • ฟรี ตรวจเช็คสภาพแอร์ : ระบบไฟฟ้า, มอเตอร์, ความเย็น
    • ล้างแอร์ ด้วยปั๊มแรงดันสูง
    • ปูผ้า ป้องกันความเสียหาย ที่อาจจะเกิดขึ้น ทุกครั้ง
    • ล้างแอร์ ทั้งคอยด์เย็น ในตัวอาคาร และคอยด์ร้อน นอกอาคาร
    • ราคามาตราฐาน ไม่คดโกง : ดำเนินการในรูปแบบบริษัท
    • นัดล้างด่วน ได้ล้างในวันเลย | นัดเช้า ล้างบ่าย ได้เลย
    • ไม่ต้องวางเงินมัดจำ ก่อนเข้าล้างแอร์
    • รับประกัน งานล้าง 30วัน งานซ่อม 90 วัน

7. มีทีมงานซัพพอร์ต ที่จะคอยตอบคำถาม
   หรือนัดหมายล้างแอร์ตลอดเวลา

    • เรามีทีมงานที่คอยซัพพอร์ต ตอบคำถามหรือนำเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ
      ให้กับคุณลูกค้าตลอด 24 ชม.
    • Line : @OFair
    • Tel : 02-933-6200
    • มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด ล้างแอร์แต่ละประเภท

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

ล้างแอร์ มีกี่แบบ

บริการ ล้างแอร์ ล้างแอร์ลาดพร้าว ล้างแอร์ดินแดง

ล้างแอร์ มีกี่แบบ

มี 3แบบ

  1. แบบง่าย
  2. แบบมาตราฐาน
  3. แบบตัดล้าง (ล้างใหญ่)

โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ล้างแอร์ แบบง่าย

ล้างเองได้
เอาที่กรองฝุ่นมาล้าง
ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไร
เวลาในการล้าง 10นาที/เครื่อง

2. ล้างแอร์ แบบมาตราฐาน

เปิดฝา เอาน้ำแรงดันสูงฉีด แผงคอยด์ความเย็นข้างใน
ต้องใช้เครื่องมือช่าง
ล้างเองลำบาก
เวลาในการล้าง 45นาที/เครื่อง

3. ล้างแอร์ แบบตัดล้าง (ล้างใหญ่)

ตัดเครื่องแอร์ ออกมาจากกำแพงเลย
แยกชิ้นส่วนทุกชิ้น ดึงออกมาล้าง ทีละชิ่น | เปรียบเสมือน การติดตั้งแอร์ใหม่
ล้างเองยากมาก ต้องใช้ช่างชำนาญการ 2คน พร้อมอุปกรณ์
เวลาในการล้าง 2ชั่วโมง/เครื่อง


บริการของเรา

เปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด | ปูผ้าป้องกันความเสียหาย | ราคามาตรฐานไม่คดโกง

บริการ ล้างแอร์ ล้างแอร์ลาดพร้าว ล้างแอร์ดินแดง
บริการ-ซ่อมแอร์ ซ่อมแอร์ลาดพร้าว ซ่อมแอร์ดินแดง
บริการ ล้างแอร์ ติดตั้งแอร์ ติดตั้งแอร์ลาดพร้าว ติดตั้งแอร์ดินแดง
บริการ ขายแอร์


Don`t copy text!