Category Archives: สาระความรู้

ล้างแอร์หน้าฝน ดีอย่างไร ?

ล้างแอร์หน้าฝน

ล้างแอร์หน้าฝน ดีอย่างไร ?

ทำไมการล้างแอร์ในหน้าฝน ถึงสำคัญ

การล้างแอร์ในหน้าฝน จึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะนอกจากช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าไฟได้อีกด้วย

ช่วงฤดูฝน อากาศชื้นกว่าปกติ ความชื้นในอากาศเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย และฝุ่นภายในเครื่องปรับอากาศ เมื่อเราเปิดแอร์ในสภาวะอากาศชื้น ความชื้นเหล่านี้จะเกาะอยู่ตามคอยล์เย็น (Evaporator) และโพรงกระรอก หากไม่ได้รับการดูแลหรือ ล้างแอร์เป็นประจำ จะทำให้แอร์ส่งกลิ่นอับ เชื้อโรคแพร่กระจาย และส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ใช้งานโดยตรง

แอร์เหม็นอับ 2
แอร์เหม็นอับ 3

ประโยชน์ของการล้างแอร์หน้าฝน

1. ลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย

ความชื้นสูงในฤดูฝน ทำให้โพรงแอร์และฟิลเตอร์เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค การล้างแอร์จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ ทำให้ลมหายใจสะอาดขึ้น ลดความเสี่ยงการเกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ หรือหอบหืด

2. ล้างแอร์หน้าฝน ลดกลิ่นอับภายในบ้าน

ปัญหากลิ่นอับจากแอร์เกิดขึ้นบ่อยในหน้าฝน การล้างแอร์ช่วยกำจัดแหล่งสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ห้องมีอากาศสดชื่นอยู่เสมอ

3. ประหยัดพลังงานและค่าไฟ

แอร์ที่สกปรกจะทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น แต่การล้างแอร์ทำให้ระบบทำงานลื่นไหล ไม่เปลืองพลังงาน ส่งผลให้ค่าไฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด

4. ยืดอายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศ

การดูแลและล้างแอร์เป็นประจำ โดยเฉพาะในฤดูฝน จะช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน ทำให้เครื่องใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องซ่อมบ่อย

5. สร้างสุขภาพที่ดีให้กับครอบครัว

แอร์ที่สะอาด หมายถึงอากาศที่สดชื่นและปราศจากฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ซึ่งช่วยให้สมาชิกในบ้านมีสุขภาพดีขึ้น

ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหนในฤดูฝน

โดยทั่วไปแนะนำให้ล้างแอร์ทุก 4-6 เดือน แต่ถ้าเข้าสู่ช่วงหน้าฝนที่อากาศชื้นมาก ควรล้างถี่ขึ้น เช่น ทุก 3-4 เดือน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่เป็นโรคภูมิแพ้

เลือกผู้ให้บริการล้างแอร์ที่น่าเชื่อถือ

การล้างแอร์ไม่ใช่แค่การทำความสะอาดภายนอก แต่ต้องมีการตรวจสอบระบบภายใน เช่น น้ำยาแอร์ การรั่วซึม และการทำงานของพัดลม ดังนั้นควรเลือกช่างที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าแอร์ของคุณจะสะอาดและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการล้างแอร์คุณภาพ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริการล้างแอร์ OFAir ซึ่งมีทีมงานมืออาชีพพร้อมดูแลเครื่องปรับอากาศของคุณทุกขั้นตอน

ฝุ่นในแผงรังผึ้ง
พัดลมแอร์-สกปรก

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

ตัดล้างแอร์ แล้วล้างทำความสะอาด

สรุป

การล้างแอร์หน้าฝน เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยลดการสะสมของเชื้อรา กลิ่นอับ ยืดอายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศ และยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย หากคุณต้องการอากาศที่สะอาดสดชื่นในบ้าน การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอโดยช่างผู้เชี่ยวชาญคือคำตอบที่ดีที่สุด

ช่องทางติดต่อ นัดหมายล้างแอร์ กับ OFAir Service

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-933-6200

OF Air – พูดจาดี ล้างแอร์สะอาด เก็บกวาดเรียบร้อย

Tel : 02-933-6200

web : www.OFair.co

Line : @OFair

โพรงกระรอกคืออะไร ? ทำไมถึงต้องล้าง ?

ล้างแอร์โพรงกระรอก คืออะไร ?

เมื่อพูดถึงการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ หลายคนมักจะคุ้นเคยกับคำว่า “ล้างแอร์” ที่เน้นทำความสะอาดฟิลเตอร์หรือแผงคอยล์เย็น แต่ยังมีอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ “โพรงกระรอก” หรือที่หลายคนเรียกว่า “โบลเวอร์ (Blower)” ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการหมุนเวียนอากาศเย็นภายในห้อง หากส่วนนี้สกปรก ย่อมส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพอากาศและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ จึงได้มีบริการ ล้างแอร์โพรงกระรอก จาก OFAir Service ให้บริการในชื่อล้างแอร์กลาง

พัดลมแอร์-สกปรก

โพรงกระรอกคืออะไร ?

โพรงกระรอก (Blower) ในเครื่องปรับอากาศ คือ พัดลมแบบทรงกระบอกที่มีใบพัดอยู่รอบตัว ทำหน้าที่ดูดอากาศและเป่าลมผ่านแผงคอยล์เย็นเข้าสู่ภายในห้อง ตัวโพรงกระรอกจะหมุนตลอดเวลาที่เราเปิดใช้งานแอร์ เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะโครงสร้างเป็นลักษณะโพรงและมีซี่ใบพัดจำนวนมาก ทำให้ฝุ่นละออง คราบสกปรก เชื้อรา และเชื้อโรคต่าง ๆ สะสมได้ง่าย หากไม่ได้รับการล้างอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลเสียต่อทั้งเครื่องปรับอากาศและสุขภาพของผู้ใช้งาน

ทำไมต้องล้างโพรงกระรอก ?

1. ป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและเชื้อรา

โพรงกระรอกที่ไม่ได้ล้างเป็นเวลานานจะกลายเป็นแหล่งสะสมของ ฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของภูมิแพ้และปัญหาสุขภาพทางเดินหายใจ

2. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

เมื่อฝุ่นและคราบสกปรกเกาะเต็มโพรงกระรอก จะทำให้ลมออกไม่แรง ความเย็นไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นและสิ้นเปลืองค่าไฟมากขึ้น

3. ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

หลายครั้งที่เปิดแอร์แล้วได้กลิ่นอับ นั่นมักมาจากโพรงกระรอกที่เต็มไปด้วยคราบสกปรกและเชื้อรา การล้างโพรงกระรอกช่วยให้ลมที่ออกมาสะอาด สดชื่น และไม่มีกลิ่นรบกวน

4. ยืดอายุการใช้งานของแอร์

การดูแลโพรงกระรอกให้สะอาดอยู่เสมอ จะช่วยลดภาระการทำงานของระบบต่าง ๆ ในแอร์ ทำให้แอร์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และไม่ต้องเสียเงินซ่อมบ่อย



ล้างโพรงกระรอกบ่อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสม ?

ผู้เชี่ยวชาญด้านแนะนำว่า ควรล้างโพรงกระรอกอย่างน้อย ปีละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริง หากบ้านหรือสำนักงานมีฝุ่นมาก หรือมีเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่อ่อนไหวต่อฝุ่น ควรล้างบ่อยกว่านั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในบ้าน

การล้างโพรงกระรอก ควรทำเองหรือให้ช่างผู้เชี่ยวชาญ ?

แม้ในอินเทอร์เน็ตจะมี วิธีล้างโพรงกระรอกเอง (ตัวอย่างวิธีจากเว็บไซต์พันทิป) แต่ความจริงแล้วการล้างโพรงกระรอกต้องใช้ความชำนาญ เครื่องมือเฉพาะ และต้องรื้อชิ้นส่วนบางอย่างออก หากทำผิดวิธีอาจทำให้เครื่องเสียหายได้ ดังนั้นการเลือก ช่างแอร์มืออาชีพ จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากว่า

บริการล้างแอร์และโพรงกระรอกที่คุณมั่นใจได้

หากคุณกำลังมองหาบริการล้างแอร์ที่ครบวงจร ทั้งการล้างฟิลเตอร์ แผงคอยล์เย็น และโพรงกระรอก เพื่อให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและอากาศในบ้านสะอาดบริสุทธิ์ แนะนำให้เลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และทีมงานมืออาชีพ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริการล้างแอร์ครบวงจร

แอร์รั่ว ล้างแอร์ ทำความสะอาด ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์
ประเด็น รายละเอียด
โพรงกระรอกคือ พัดลมทรงกระบอกภายในแอร์ที่ดูดลมเข้าและส่งลมออก
ปัญหาจากการไม่ล้าง แอร์เย็นช้า, มีกลิ่นอับ, ค่าไฟสูง, เสี่ยงต่อสุขภาพ
กลุ่มลูกค้าแบบไหนควรล้าง บ้านทั่วไป 3–6 เดือน/ ล้างใหญ่ 2–3 ปี ทำอาหารบ่อย/มีสัตว์เลี้ยง -> ทุก 2–3 เดือน
ควรเลือกใช้บริษัทที่ไว้ใจได้ OFAir Service: มืออาชีพ, มีประสบการณ์, มาตรฐานสูง

ข้อควรระวังในการล้างแอร์โพรงกระรอก

  1. หากช่างไม่มีประสบการณ์ล้างไม่ได้ไม่ถูดวิธี อาจทำให้แอร์มีเสียงดัง

  2. และยังเสี่ยงต่อการทำโพรงกระรอกแตก

  3. ถ้าช่างไม่มีประสบการณ์ใส่น็อตไม่ตรงล็อก จะทำให้การล้างแอร์ในครั้งต่อไปทำงานยาก แกะออกยาก

สรุป

โพรงกระรอกในเครื่องปรับอากาศ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่หลายคนมองข้าม การไม่ล้างโพรงกระรอกนอกจากจะทำให้แอร์เย็นช้าและกินไฟมากขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง ดังนั้นการดูแลรักษาและล้างโพรงกระรอกอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน

ช่องทางติดต่อ นัดหมายล้างแอร์ กับ OFAir Service

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-933-6200

OF Air – พูดจาดี ล้างแอร์สะอาด เก็บกวาดเรียบร้อย

Tel : 02-933-6200

web : www.OFair.co

Line : @OFair

หลังล้างแอร์ ทำไมแอร์รั่ว

ล้างแอร์ แอร์รั่ว

สาเหตุที่ทำให้แอร์รั่ว

  • อายุการใช้งานของแอร์มีส่วนสำคัญในการศึกหล่อของท่อแอร์ และอุปกรณ์ 
  • การเสื่อมสภาพของท่อแอร์ตามการใช้งาน ถ้าใช้งานหนักเป็นประจำท่อแอร์มีารเสื่อมสภาพได้ไว
  • โดยธรรมชาติ ท่อแอร์ที่โดนความชื่น ในอุณหภูมิที่ต่ำอยู่เป็นประจำ ย่อมเกิดการสึกหล่อได้ เมื่อช่างทำการล้างแอร์โดยเครื่องพ้นน้ำแรงดันสูง ยิ่งทำให้โอกาศที่ท่อแอร์หรืออุปกรณ์เกิดการรั่วขึ้นได้

 

เมื่อช่างเข้าทำการล้างแอร์

  • ท่อทองแดงที่เปราะบางอยู่แล้วอาจจะเกิดจากอายุการใช้งาน ยิ่งทำให้โอกาสทะลุหรือรั่วได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • เมื่อมีการ ใช้อุปกรณ์เครื่องพ้นน้ำแรงดันสูง ยิ่งทำให้มีแรงดันกระทบกับอุปกรณ์ที่สึกหล่ออยู่แล้ว ให้เกิดการรั่วซึม หรือชำรุดได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

แอร์รั่ว ก่อนล้างไม่รั่ว หลังล้างแอร์รั่ว [1]
แอร์รั่ว ก่อนล้างไม่รั่ว หลังล้างแอร์รั่ว [1]

หากปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากที่ใช้บริการกับ OFAir Service

เนื่องจาก OF Air มีการรับประกันบริการล้างแอร์ 30วันหากแอร์มีปัญหาในระยะเวลารับประกันเราจะเข้าไปทำการแก้ไข โดยไม่คิดค่าบริการ

จึงเป็นเหตุให้ OF Air กำหนดให้

“ทีมช่างตรวจสอบสภาพเครื่องปรับอากาศ ก่อนดำเนินการใดๆ “

เพื่อให้ช่างได้ทราบปัญหาทั้งหมด และแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ไม่มีปัญหาในภายหลัง ดังนั้น เมื่อลูกค้า ยืนยันไม่ให้ทำการตรวจเช็คสภาพเครื่องปรับอากาศ ก่อนการล้างแอร์ ตามมาตรฐาน ทางช่างจึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ต่อได้

 

แอร์รั่ว ตรวจเช็คสภาพ ล้างแอร์

ประเด็นที่ลูกค้าหลายท่านกังวล

ถ้าให้ช่างตรวจเช็คสภาพแอร์ แล้วช่างอาจจะ แกล้งเติมน้ำยาแอร์ ให้ลูกค้า เพื่อจะเรียกเงิน ค่าเติมน้ำยาแอร์ โดยไม่จำเป็น

ปัญหานี้มักเกิดกับ ช่างแอร์ตามบ้าน ที่รับเงินจากลูกค้าโดยตรง เพราะการหลอกลวง ดังกล่าวจะทำให้ช่างแอร์ ได้เงินมากขึ้น ทันที

แต่สำหรับ OF Air นั้น เราดำเนินการ ในรูปแบบบริษัทการแจ้งราคาค่าบริการ จะถูกแจ้งจาก Admin ส่วนกลางและการชำระเงิน ลูกค้าโอนตรง เข้าบัญชีบริษัท การที่ช่างหน้างาน เรียกเก็บเงินลูกค้ามากขึ้นไม่ทำให้ช่างได้รับเงินเดือนมากขึ้น (ยกเว้น กรณี ลูกค้าจ่ายสดให้ช่างตรง และ ยอมจ่ายเงินมากกว่าที่ Admin ส่วนกลาง แจ้งเป็นลายลักษรอักษร กับลูกค้า)

จึงไม่ควรจะเป็นเหตุจูงใจ ให้มีการหลอกลวงลูกค้าให้เติมน้ำยาแอร์ โดยไม่จำเป็นครับ

 

แอร์รั่ว ตรวจเช็คสภาพ ล้างแอร์ ทำความสะอาด
แอร์รั่ว ล้างแอร์ ทำความสะอาด ซ่อมแอร์
แอร์รั่ว ตรวจเช็คสภาพ

ทำไม OF Air ถึงต้องมีมาตรฐานการตรวจสภาพเครื่องปรับอากาศก่อนให้บริการ

จากประสบการณ์ กว่า 3 หมื่นเครื่องของ OF Airทำให้เราได้เรียนรู้ว่า “แอร์1เครื่อง อาจจะมีปัญหาหลายอย่าง ซ่อนอยู่ข้างใน” เช่น ลูกค้าเรียกให้ OF Air เข้าไปล้างแอร์ เนื่องจากแอร์ ไม่เย็น แต่ไม่มีใครทราบว่า ท่อน้ำยาแอร์นั้น รั่วอยู่ก่อนแล้ว ทำให้แอร์ไม่เย็น ซึ่งหากล้างแอร์ให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบระดับความดัน น้ำยาแอร์ก่อน ก็จะไม่ทราบปัญหา แล้วเมื่อล้างแอร์เสร็จ แอร์ก็ไม่กลับมาเย็น

เมื่อ ช่างตรวจเช็คในภายหลัง แล้วพบว่า ท่อน้ำยาแอร์รั่ว ต้องซ่อมรั่วก่อน พอถึงตอนนี้ ก็ยากที่จะทำความเข้าใจ กับลูกค้าแล้วว่า รอยรั่วนั้น เกิดขึ้นก่อนหรือหลังการล้างแอร์ ครั้งนี้

เพื่อทำให้ ลูกค้าพอใจ OF Air จำเป็นต้อง ซ่อมรั่วให้ลูกค้าเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า แอร์รั่วตั้งแต่ เมื่อไร OF Air จึงเห็นว่า จะเป็นการดีกว่า ถ้าเราจะตรวจสภาพ ระบบน้ำยาและระบบไฟฟ้า ของแอร์ ก่อนการให้บริการเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ที่จะเกิดขึ้น

OF Air จึงได้ตั้งมาตรฐาน ในการ

ตรวจสภาพแอร์ก่อนการให้บริการ ทุกครั้ง” ***

แอร์รั่ว ล้างแอร์ ทำความสะอาด ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์

OF Air หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณลูกค้าทุกท่านจะเข้าใจถึงเหตุผลดังกล่าว และขอขอบคุณที่ให้โอกาส OF Air ได้ดูแลเครื่องปรับอากาศของลูกค้าทุกท่าน

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-933-6200

OF Air – พูดจาดี ล้างแอร์สะอาด เก็บกวาดเรียบร้อย

Tel : 02-933-6200

web : www.OFair.co

Line : @OFair

ทำไมต้องล้างแอร์ทุก 6 เดือน

ล้างแอร์ 6 เดือน - Thumnail [1]

ทำไมต้อง

ล้างแอร์ 6 เดือน

ล้างแอร์ 6 เดือน - Thumnail [1]

**ทำไมต้องล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน
ประโยชน์ทางสุขภาพและความปลอดภัยของการล้างแอร์**

การล้างแอร์เป็นกระบวนการสำคัญที่ควรทำเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อให้ระบบทำความเย็นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความสะอาดที่เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ นอกจากประโยชน์ทางสุขภาพและความปลอดภัย การล้างแอร์ยังมีผลต่อประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษา ต่อไปนี้คือสาเหตุที่คุณควรล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน
ล้างแอร์ 6 เดือน - เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

ข้อดีของการล้างแอร์ทุก 6 เดือน

✅ 1. **ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพด้านการหายใจ**

   การล้างแอร์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดจำนวนเชื้อโรคและสารสกัดที่สามารถก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้และโรคหายใจได้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพทางการหายใจ

✅ 2. **ป้องกันการเกิดแบคทีเรียและเชื้อรา**

   การล้างแอร์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียและเชื้อราที่สามารถสะสมตัวได้ในระบบทำความเย็น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน

✅ 3. **เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น**

   การล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือนช่วยให้ระบบทำความเย็นทำงานได้ดีมากขึ้น ไม่มีการบล็อกทางไหลของอากาศด้วยฝุ่นและสารสกัดต่าง ๆ ทำให้ระบบทำความเย็นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

✅ 4. **ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย**

   แอร์ที่ได้รับการล้างทุก ๆ 6 เดือนทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น ทำให้ประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน

✅ 5. **รักษาความปลอดภัยของระบบ**

   การล้างแอร์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของระบบทำความเย็น ป้องกันการเกิดความร้อนเพิ่มขึ้นภายในเครื่องซึ่งอาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ไฟไหม้

ที่สำคัญปัญหาการจองคิวนานจะหมดไป

เพราะมีการวางแผนล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

สรุป : ทำไมต้องล้างแอร์ทุก 6 เดือน

ดังนั้น, การล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือนไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสุขภาพและความปลอดภัย แต่ยังเป็นการประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้วยประโยชน์หลายประการ, การล้างแอร์ควรเป็นกิจกรรมที่ผู้ใช้ทุกคนควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและสุขภาพของทุกคนในบ้าน เพื่อให้แอร์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่อุดตัน และช่วยประหยักค่าไฟอีกด้วย หรือสามารถล้างใหญ่จะเป็นเรื่องดีมาก ถอดแอร์ ตัดล้าง หรือที่เรียกกันว่า ล้างใหญ่ คือการถอดแอร์ ออกมาทำความสะอาดทุกชิ้นส่วนนั่นเอง

 OF Air เราจึงมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการ ล้างแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์ และโยกย้าย แบบครบวงจร

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546 

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

เลี้ยงหมาแมวในห้องแอร์ ทำอย่างไร ?

เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์

เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์

เลี้ยงน้องหมาแมวในห้องแอร์ควรระวังอย่างไร ?

เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์

เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์ ควรทำอย่างไร ?

อากาศในประเทศไทยร้อน นอกจากคนที่รู้สึกร้อนแล้วสัตว์ก็ร้อนมากๆ ไม่ต่างกัน  ดังนั้น สิ่งที่คนเลี้ยงน้องหมาน้องแมวควรระมัดระวังในช่วงที่อากาศร้อนจัดคือ การป้องกันอาการ ฮีทสโตรก โดยเฉพาะพันธุ์ที่ขนยาว หรือมีขนสองชั้นก็ ควรจัดพื้นที่ ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ร้อนอบอ้าว หรือเปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงที่อากาศร้อนมากๆ แต่สำหรับใครที่อยากลดค่าใช้จ่าย ประหยัดไฟบ้าน 

OFAir มี วิธีลดค่าไฟมาฝากกัน

✅ 1. เปิดอุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส

✅ 2. ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลา

✅ 3. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช้

✅ 4. ลดความร้อนสะสมภายในห้อง

         4.1. การติดตั้งฉนวนความร้อน

         4.2. การใช้ผ้าม่านกันความร้อน

         4.3. ติดตั้งฟิล์มกรองแสงอาคาร

✅ 5. ติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับใช้ในบ้าน

ข้อควรระวังอย่างแรก : อุณหภูมิ

บ้านหรือคอนโดที่ เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์ ควรเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 24-27 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง และลักษณะทางสายพันธุ์ของน้องหมา ถ้าเป็นหมาที่มีขนเยอะขนหนา เป็นหมาเมืองหนาวต้องเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำกว่านั้น

แต่หากเป็นน้องหมาที่มีขนชั้นเดียว และไม่ชอบอากาศเย็น ขี้หนาว ซึ่งยิ่งสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก น้องจะทนกับความหนาวได้ไม่ดี หากเลี้ยงน้องในห้องแอร์จึงควรใส่เสื้อให้น้องรู้สึกอบอุ่น และให้คอยสังเกตการของน้อง โดยดูจากท่านอนของน้องหมา ดังนี้

❎ น้องนอนขดตัวมาก พยายามซุกตัวเก็บเท้าขดตัว แปลว่า น้องกำลังหนาวมากเกินไป ควรเพิ่มอุณหภูมิหรือห่มผ้าให้อบอุ่นมากยิ่งขึ้น

✅ ถ้าท่านอนเป็นแบบปกติสบายๆ นอนไม่ขดตัวมาก หรือ นอนหงาย แปลว่า อุณหภูมิกำลังดีแล้ว

เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์ อุณหภูมิร่างกาย
เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์ มุมนอน

ข้อควรระวังที่ 2 : มุมนอนพักผ่อนที่เหมาะสม

ทำเลในห้องก็สำคัญเช่นกัน มุมที่ดี คือมุมที่แอร์ไม่ได้ลงตรงๆ หากแอร์เป่าลมบริเวณที่น้องนอนตรงๆทั้งคืนอาจทำให้หนาวเกินไปและทให้น้องไม่สบายได้

ข้อควรระวังที่ 3 : กลิ่นอับ

เนื่องจากห้องแอร์เป็นห้องปิด ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด เจ้าของควรเปิดระบายอากาศเป็นประจำ หมั่นทำความสะอาดดูดฝุ่นและขนที่หล่นในห้อง คอยซักชุดเครื่องนอนทั้งของตัวเองและของน้องหมา อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

สิ่งสำคัญคือเครื่องปรับอากาศ ที่ดูดทั้งกลิ่น ทั้งฝุ่น รวมถึงขนของน้องๆ เข้าไป เราควรหมั่นล้างแอร์บ่อยขึ้น จากห้องปกติ 6 เดือนต่อครั้งเป็น 3 เดือนต่อครั้ง เพื่อรักษาการทำงานของตัวแอร์ให้มีอายุหารใช้งานที่ยาวนานขึ้น และช่วยประหยัดไฟมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ เจ้าของและน้องหมาได้สูดอากาศที่ดีอย่างต่อเนื่องอีก

 #OFAir #ล้างแอร์ #แอร์เหม็นอับ

🐶 เพราะสุขภาพน้องหมาสำคัญที่สุด 🐶

สรุป : เลี้ยงสัตว์ในห้องแอร์ ควรระวังอย่างไร ?

การเลี้ยงสัตว์ในห้อง ผู้เลี้ยงต้องพบเจอกับสิ่งสกปกที่เกิดจากน้องๆ เช่นไรฝุ่น, ขนร่วง, รวมถึงกลิ่นน้องๆที่ส่งผลต่อบรรยากาศภายในห้อง เพราะฉนั้นผู้เลี้ยงควรเตรียมความพร้อม และศึกษาการเลี้ยงดูที่เหมาะสม รวมถึงการดูแลรักษาเครื่องใช้ำฟฟ้าภายในบ้าน โดยเฉพาะ เครื่องปรับอากาศ ควรทำความสะอาดอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง เพื่อให้แอร์ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่อุดตัน และช่วยประหยักค่าไฟอีกด้วย หรือสามารถล้างใหญ่จะเป็นเรื่องดีมาก ถอดแอร์ ตัดล้าง หรือที่เรียกกันว่า ล้างใหญ่ คือการถอดแอร์ ออกมาทำความสะอาดทุกชิ้นส่วนนั่นเอง

 OF Air เราจึงมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการ ล้างแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์ และโยกย้าย แบบครบวงจร

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

คอยล์ร้อนกับคอยล์เย็นต่างกันอย่างไร ?

Tumnail - คอยล์ร้อน คอยล์เย็น [2]

คอยล์ร้อน กับ คอยล์เย็น

ทำงานต่างกันอย่างไร

Tumnail - คอยล์ร้อน คอยล์เย็น [2]

CONDENSER หรือ คอยล์ร้อน คือ

คอยล์ร้อน หรือ คอนเดนเซอร์ ยูนิต มีหน้าที่ระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็น ขณะที่เครื่องปรับอากาศทำงาน และดันความเย็นเข้าไปแทนที่ความร้อน ซึ่งเจ้าคอยล์ร้อนนี้ ก็อยู่ในคอมเพรสเซอร์แอร์ที่อยู่นอกบ้านเรานั่นเอง

รูปแบบการทำงาน ของ คอยล์ร้อน

คอยล์ร้อน มีหน้าที่การระบายความร้อน ซึ่งสามารถแบ่งได้ 3 ระบบ ดังนี้

การระบายความร้อนด้วยอากาศ
  • คือ การใช้อากาศเป็นตัวกลางในการระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็น เพื่อให้สารทำความเย็นที่สถานะเป็นไอกลั่นตัวเป็นสถานะของเหลวอีกครั้
คอยล์ร้อน pic1
คอยล์ร้อน pic2
การระบายความร้อนด้วยน้ำ
  • คือ การระบายความร้อนโดยให้น้ำเป็นตัวกลางในการลดความร้อนจากคอยล์ร้อน โดยทั่วไปนิยมใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำในระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ หรือ เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ เป็นต้น
คอยล์ร้อน pic2
การระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ
  • คือ อากาศจะถูกดูดเข้าไปยังส่วนล่างของเครื่อง ผ่านสัมผัสกับคอยล์คอนเดนเซอร์ จากนั้นอากาศจะไหลผ่านทะลุออกทางด้านบนของเครื่อง ในระหว่างนั้นปั๊มน้ำจะดูดเอาน้ำจากถังพักส่วนล่างขึ้นไปฉีดสเปรย์ให้เป็นฝอย เพื่อรับความร้อนจากคอยล์ร้อนที่หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง
คอยล์ร้อน pic3

คอยล์เย็น หรือ EVAPORATOR

คอยล์เย็น ก็คือ เครื่องปรับอากาศที่อยู่ในบ้าน ทำหน้าที่ดูดความร้อนออกจากห้อง และส่งความเย็นที่มาจากสารทำความเย็นในคอยล์ร้อนไปแทน เพื่อทำให้ห้องเราเย็นสบาย

คอยล์เย็น หรือ (Fan coil unit) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักของระบบทำความเย็นที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะทำหน้าที่ดูดซับความร้อนจากภายในห้อง โดยมีมอเตอร์พัดลมเป็นตัวดูดความร้อนเข้ามาผ่านช่องที่เรียกว่า RetrunAir ที่มีฟิลเตอร์เป็นตัวกรองฝุ่น เมื่อความร้อนที่ถูกดูดเข้ามานั้นสัมผัสกับคอยล์เย็นที่ทำหน้าที่ควบคู่ไปกับสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) จึงทำให้เกิดการระเหย หรือเกิดการถ่ายเทความเย็นออกมานั่นเอง

คอยล์เย็น มีส่วนประกอบย่อยต่างๆ ที่จำเป็นต้องดูแลรักษา และทำความสะอาด ดังนี้

  1. แผงกรองอากาศ
  2. แผงขดท่อคอยล์เย็น
  3. ใบพัดลมคอยล์เย็น
  4. ถาดรองน้ำทิ้งและท่อน้ำทิ้ง
  5. โครงเครื่อง หน้ากากรับลม และหน้ากากจ่ายลม

สรุป : คอยล์ร้อน กับ คอยล์เย็น ทำงานต่างกันอย่างไร

ทุกชิ้นส่วนสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ทั้งหมด แต่ควรระมัดระวังเป็นอย่างสูง แนะนำให้ปรึกษาหรือมีเชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ในการ ถอดแอร์ ตัดล้าง หรือที่เรียกกันว่า ล้างใหญ่ คือการถอดแอร์ ออกมาทำความสะอาดทุกชิ้นส่วนนั่นเอง

 OF Air เราจึงมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการ ล้างแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์ และโยกย้าย แบบครบวงจร

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

ประโยชน์ล้างแอร์หน้าหนาว

ล้างแอร์ ประโยชน์ล้างแอร์หน้าหนาว 5

ประโยชน์ ล้างแอร์

ในหน้าหนาว มีประโยชน์อย่างไร

ล้างแอร์ ประโยชน์ล้างแอร์หน้าหนาว 5

ประโยชน์ของการล้างแอร์หน้าหนาว

การล้างแอร์ในหน้าหนาวที่จะถึงนี้ดีอย่างไร OF Air Service รวบรวมประโยชน์ของการล้างแอร์ หน้าหนาวมานำเสนอความรู้นี้ถึงคุณลูกค้าและผู้ใช้งาน แอร์ปรับอากาศเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป

โดยปกติแล้วในฤดูหนาว จะมีความชื้นในอากาศมากกว่าปกติ ทำให้เชื้อโรค แบคทีเรีย, รา, ไวรัส (และโควิด-19) สามารถเจริญเติบโตได้ในอุณภูมิที่ต่ำ อาจมีการสะสมของเชื้อโรคมาในระยะหนึ่งแล้ว จึงควรอย่างยิ่งที่จะล้างแอร์สักครั้ง

ซึ่งตัวแอร์มักจะมีความชื้นอยู่แล้ว ลูกค้าบางท่านไม่ได้ล้างแอร์ด้วยวิธีแกะล้าง ตัดล้าง หรือล้างทั้งระบบ บรรดาเศษฝุ่นผง เศษผม เศษขนสัตว์ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ถูกดูดเข้าไปรวมตัวกันอยู่ที่แผ่นกรองแอร์ ลึกไปถึงด้านในที่ไม่สามารถใช้เพียงน้ำฉีดพ้น เพื่อชะล้างได้ กลายเป็นจุดสะสมเชื้อโรค ทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรคในท้ายที่สุด !!!!

ส่งผลเสียที่ตามมามากมาย

  • แอร์เหม็นอับ
  • แอร์รั่ว
  • แอร์น้ำหยด
  • แอร์ไม่เย็น
  • แอร์ทำงานเสียงดัง
  • แอร์มีน้ำแข็งเกาะ
ล้างแอร์ ประโยชน์ล้างแอร์หน้าหนาว 7 ล้างแอร์สุขุมวิท

ข้อดีของการล้างแอร์ในหน้าหนาวคือ

  • แก้อาการเหม็นอับ
  • ลดความเสี่ยงการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้
  • ลดการสะสมของฝุ่น เชื้อโรค เชื้อไวรัส PM 5
  • ถึงเวลาตรวจเช็คสภาพแอร์ไปในตัว หลังจากผ่านการใช้งานมาอย่างหนักในช่วงหน้าร้อน
  • ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า และยืดอายุการใช้งานของแอร์
  • ที่สำคัญ คิวไม่เยอะ ราคาดี โปรโมชั่นดี

ประโยชน์ของการล้างแอร์หน้าหนาว

ที่สำคัญคือ ในภาวะอุณหภูมิต่ำ กรดเกลือที่เกราะอยู่ตามแผงฟินจะเจริญเติบโตขึ้นเลื่อยๆ และสามารถกัดกร่อนทำให้เกิดปัญหาแอร์รั่วได้ ดังนั้น การล้างแอร์ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของแผงคอยล์เย็นไปในตัว และยังช่วยลดกลิ่นอับได้อีกด้วย

โดยปกติแล้ว ความถี่ในการล้างแอร์จะอยู่ที่ 3-6 เดือน/ครั้ง ช่วยประหยัดไฟ และยืดอายุการใช้งานมากขึ้น เพราะการล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้แอร์เย็นฉ่ำ อากาศภายในห้องสดชื่น จะทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์และคอยล์เย็น คอยล์ร้อนมีประสิทธิภาพดี ช่วยประหยัดไฟได้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งยังป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในหน้าหนาวมีลมพายุเยอะ ส่งผลให้ ลมหนาวหอบฝุ่นมาถึงตัวเราได้ จึงเป็นโอกาสที่เหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมในการล้างแอร์ในครั้งนี้

 

สรุป : ประโยชน์หลักๆ ของการล้างแอร์หน้าหนาว

คือลดความเสี่ยงของการเจริญเติบโตของเชื้อโรค กรดเกลือที่เกราะตามแผงฟิน ที่อาจจะส่งผลเสียกับตัวแอร์ในระยะยาว เช่น แอร์รั่ว แอร์เหม็นอับ แอร์ไม่เย็น เป็นต้น จึงแนะนำอย่างยิ่งในการล้างแอร์ในหน้าหนาว เพื่อเตรียมความพร้อมของตัวแอร์ และเป็นการรีเช็คระบบการทำงานของแอร์ทั้งหมดว่าอยู่ในสภาพที่ปกติหรือไม่ โดยวิธีการตัดล้างทั้งระบบเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการล้างแอร์ทั้งระบบ และได้ตรวจเช็คในทุกจุดที่การล้างทั่วไปเข้าไม่ถึงอีกด้วย

 OF Air เราจึงมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการ ล้างแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์ และโยกย้าย แบบครบวงจร

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

แอร์จับตัวเป็นน้ำแข็ง

น้ำแข็งเกาะ 3

แอร์น้ำแข็งเกาะ

ปัญหาแอร์จับตัวเป็นน้ำแข็ง แก้ไขอย่างไร

สาเหตุที่ แอร์จับตัวเป็นน้ำแข็ง

1. แอร์ตัน รังผึ้งตัน
มีฝุ่นและสิ่งสกปรก เข้าไปปิดบังการระบายลม ที่รังผึ้งทำความเย็น

2. น้ำยารั่ว น้ำยาซึม ที่คอยล์เย็น
ระบายลม ที่อาจจะมีเสียงน้ำเข็งร่วง ในตัวแอร์

3. Compressor มีกำลังอัดน้อย
เกิดความขัดข้อง หากชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ส่วนใดของแอร์เกิดความขัดข้อง จะทำให้แอร์เป็นน้ำแข็งได้ เช่น แผงกรองอากาศเกิดการอุดตัน หรือแผงคอยล์สกปรก จึงไม่สามารถสร้างความเย็น จนแอร์เป็นน้ำแข็ง หรือเทอร์โมนิเตอร์ไม่ยอมตัด ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานตลอดเวลา

4. ใช้งานหนัก
หากมีการใช้งานแอร์หนัก หรือมากเกินไป ขาดการดูแล เช่น ไม่ได้รับการล้างแอร์ ทำความสะอาด หรือการตรวจเช็คในส่วนต่างๆ ก็จะทำให้แอร์เป็นน้ำแข็งได้

5. พัดลมคอยล์เย็นหมุนช้า
พัดลมคอยล์เย็นหมุนช้าลง หรือไม่ยอมหมุน ทำให้ความเย็นไม่ถูกนำออกไป ข้างนอก จึงจับตัวเป็นน้ำแข็ง

ปัญหาที่ตามมาจากแอร์เป็นน้ำแข็ง

1. แอร์เสีย

ถ้าปล่อยให้เกิดอาการน้ำแข็งเกาะนาน โดยไม่แก้ไข จะทำให้ ระบบการทำงานของแอร์เสียหาย รวมไปถึงอุปกรณ์ ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดการเสื่อมสภาพ และทำให้แอร์เสียหายในท้ายที่สุด

2. แอร์ไม่เย็น

เป็นเรื่องปกติถ้าเกิดปัญหาน้ำแข็งเกาะ เพราะไปอุดตันแผงคอยล์เย็น หรือแผงรังผึ้งทำให้ แอร์ไม่มีการระบายความเย็น หรือลมเย็นออกมาได้ ทำให้แอร์เย็นช้ากว่าปกติ

3. ค่าไฟเพิ่มขึ้น

สิ่งที่จะตามในทุกๆเดือนคือ ค่าไฟของท่านจะเพิ่มขึ้น เพราะการทำงานของแอร์ที่มากขึ้น ทำให้กินค่าไฟจำนวนมาก เกิดจากคราบสิ่งสกปรก ที่อุดตันเป็นเวลานาน ส่งผลให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

4. แอร์น้ำหยด

เมื่อเกิดปัญหาน้ำแอร์เกาะนานๆ ทำให้แอร์อุดตันบนหน้าแผงรังผึ้ง ปัญหาต่อมาคือน้ำแอร์จะเกิดการรั่วซึมและจะหยดออกจากท่อแอร์หรือตัวแผงคอยล์เย็น ที่ลูกค้าส่วนใหญ่พบเจอคือปัญหาน้ำแอร์หยดนั้นเอง

5. แอร์เหม็นอับ

แก้ปัญหา แอร์เหม็นอับเมื่อแอร์อุดตันจากน้ำแข็งเกาะนานๆ รวมไปถึงสิ่งสกปรก ที่เกาะอยู่ตามแผงคอยล์เย็น หรือด้านในกรงกระรอก และไม่มีการทำความสะอาดให้ทั่วถึง ทั้งด้านในและด้านนอก อาจก่อให้เกิดการสะสมของคราบน้ำ สิ่งสกปรก ที่ถูกอัดฉีดจากแรงดันน้ำ กระเด็นเข้าด้านใน ทำให้เกิดการสะสมสิ่งสกปรก ส่งผลให้แอร์มีกลิ่นเหม็นเวลาใช้งาน แอร์เหม็นอับ

เพราะการล้างแอร์ทั่วไป อาจไม่เพียงพอ

การแก้ปัญหาแอร์เป็นน้ำแข็ง

1.   ขอคำปรึกษากับช่างผู้เชี่ยวชาญ

ขอคำปรึกษาในส่วนของเรื่องการป้องกัน แอร์น้ำแข็งเกาะ การใช้งานในครั้งต่อๆ ควรระมัดระวังในส่วนไหนมากขึ้น และวิธีปฏิบัติเมื่อเจออาการ น้ำแข็งเกาะ เช่นนี้ สามารถติดต่อฝ่าย Support ของทาง OF Air Service ได้ Line : @OFair หรือโทร 02-933-6200

2.   ให้ช่างตรวจสอบอุปกรณ์ภายในทุกจุด เพื่อป้องกันการชำรุด อาจก่อให้เกิดความเสียหายในภายหลัง

2.1 ช่างจะทำการตรวจสอบด้านในแผงรังผึ้ง รวมถึงด้านนอกแผงเพื่อหาจุดรอยรั่ว รอยชำรุด ที่อาจส่งผลให้น้ำยารั่วซึม นำไปสู่ปัญหาแอร์น้ำแข็งเกาะได้

2.2 ช่างตรวจสอบท่อเดินน้ำยาแอร์ว่ามีการขาดหรือรั่วซึมหรือไม่

2.3 ช่างทำการตรวจสอบ Compressor แอร์ด้านนอก ว่ามีจุดที่ชำรุด หรือรอยรั่วที่ Compressor หรือไม่

3.   ล้างแอร์ใหญ่ หรือตัดล้าง

นอกจากการล้างแอร์ แบบทั่วไป หรือล้างเล็ก เพื่อให้แอร์เย็น และประหยัดค่าไฟฟ้า ที่ควรจะทำทุก 3-6เดือน แล้ว

เราควรจะ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี เราควรจะล้างใหญ่ เพื่อจัดการกับ คราบสิ่งสกปรก เชื้อโรค เชื้อรา ที่การล้างทั่วไป เข้าไม่ถึงออกไป แบบเป็นพิเศษบ้าง โดยมีความถี่อยู่ที่

1. ป้องกัน พื้นและเฟอร์นิเจอร์

1.1 ปูพื้น ด้วยผ้าร่มกันน้ำ และผ้าห่มกันรอย จากบันได เพื่อป้องกัน พื้นห้อง จากรอยขีดข่วน 

1.2 คลุมแอร์ ด้วยผ้าใบล้างแอร์ เพื่อป้องกัน เฟอร์นิเจอร์ และกำแพง จากสิ่งสกปรก

2. ถอดชุดคอยล์เย็น (ด้านในอาคาร) เพื่อแยกชิ้นส่วน

2.1 เก็บล็อคน้ำยาแอร์

2.2 ถอดชุดคอยล์เย็น(ด้านในอาคาร) แยกออกจากคอยล์ร้อน(ด้านนอกอาคาร)

2.3 แยกชิ้นส่วนแอร์ทั้งหมด ออกจากกัน

3. ทำความสะอาด แผงรังผึ้ง

3.1 ฉีดล้างแผงรังผึ้งด้วยน้ำเปล่า จากทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก

3.2 แช่แผงรังผึ้ง ด้วยน้ำยากัดแผงรังผึ้ง เพื่อกัดเอาสิ่งสกปรกพี่ฝังแน่น ให้หลุดออก แล้วฉีดล้างออก ด้วยน้ำเปล่า

3.3 แช่แผงรังผึ้ง ด้วยน้ำยากัดแผงรังผึ้ง แล้วฉีกน้ำล้างออก อีกครั้งเผื่อความมั่นใจ

4. ทำความสะอาด พัดลมและรางระบายน้ำ

4.1 ฉีดล้าง ทำความสะอาด พัดลมแอร์

4.2 ฉีดล้าง ทำความสะอาด รางระบายทั้งข้างหน้้าและข้างหลัง

4.3 เช็ดถู ให้มั่นใจ ว่าไม่มีสิ่งสกปรกติดอยู่

5. ติดตั้งแอร์กลับเข้าที่เดิม

5.1 ประกอบส่วน คอยเย็นและร้อน เข้าด้วยกันใหม่

5.2 ตรวจเช็ค การทำงานของแอร์ อีกครั้งเผื่อความมั่นใจ

6. เก็บกวาด ให้เรียร้อย

6.1 เก็บกวาด อะไหล่ เศษวัสดุ ฝุ่นผง จากการทำงาน ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร

6.2 เลื่อน เฟอร์นิเจอร์ ตู้ โต๊ะ กลับเข้าตำแหน่งเดิม เพื่อให้สภาพหน้างาน กลับมาเหมือน ก่อนการทำงาน ทุกประการ

 

สรุป : ข้อควรระวัง และวิธีการแก้ปัญหาแอร์น้ำแข็งเกาะ

วิธีการติดตั้งแอร์ คุณสามารถทำด้วยตอนเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ยังคงจำเป็นต้อง มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา หรือต้องมีการเตรียมการที่รัดกุมและระวังอย่างมาก เพราะในแต่ละขั้นตอน มีการจัดการเชิงเทคนิคค่อนข้างสูงและซับซ้อน OF Air เราจึงมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการ ล้างแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์ และโยกย้าย แบบครบวงจร

 

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

ข้อควรระวัง และ วิธีการ ติดตั้งแอร์ โยกย้ายแอร์

บริการติดตั้งแอร์ ถอดแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งแอร์ โยกย้ายแอร์ ล้างแอร์ OFAir จำหน่ายแอร์

ติดตั้งแอร์ โยกย้ายแอร์

ข้อควรระวัง และวิธีการ ติดตั้งแอร์ โยกย้ายแอร์มีอะไรบ้าง

ข้อควรระวังในการ ติดตั้งแอร์ มีอะไรบ้าง ?

  1. หาตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้ง และคำนึงถึงขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง
  2. ควรระวังขั้นตอนการขันแพร์ หรือขันน็อทที่เชื่อมต่อระหว่างคอยล์เย็นกับคอยล์ร้อน
  3. ควรระมัดระวังในการเชื่อมต่อสายไฟทุกจุดของอุปกรณ์ เพื่อป้องกันไฟฟ้าช็อตในตัวแอร์
  4. ควรระมัดระวังในการเดินท่อทองแดง อย่าให้เกิดการบีบตัวของท่อ หรือรั่วไหล อาจทำให้เกิดปัญหาแอร์ไม่เย็น แอร์รั่วในอานาคตได้
  5. ควรระมัดระวังในการสวมท่อยางแอร์ ไม่ให้เกิดรอยรั่ว ควรพันท่อยางให้สนิดและแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด น้ำหยด น้ำซึม ตามท่องแอร์
  6. ควรระมัดระวังจุดที่ติดตั้งคอยล์ร้อน ไม่ให้แคบเกินไป เพราะจะส่งผลให้คอยล์ร้อนระบายความร้อนไม่ได้อย่างที่ควร และทำงานหนักจนเกินไป

 

วิธีการ ติดตั้งแอร์ มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

  1. หาตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม กับขนาดห้อง

เราควรบล็อกน้ำยาแอร์ที่ตัวคอยล์ร้อนก่อน การบล็อกน้ำยาแอร์คือ การปิดระบบน้ำยาแอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของน้ำยา และเพื่อไม่ให้เกิดการเติมน้ำยาแอร์ซ้ำๆ ในรอบถัดไป

2. จัดเตรียมอุปกรณ์ในการติดตั้งแอร์ ให้ครบถ้วนพร้อมใช้งาน

ปิดการทำงานของเครื่องแอร์ และทำการปิดระบบไฟฟ้าที่เบรกเกอร์ไฟฟ้า เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด และเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

3. เริ่มขั้นตอนการติดตั้งคอยล์เย็น

3.1 ติดตั้งเพดตัวยึดคอยล์เย็นให้แน่นหนา และให้ได้ระดับที่เหมาะสม ไม่เอียง

3.2 นำตัวคอยล์เย็นประกอบขึ้นสู่ที่ติดตั้ง

3.3 เดินสายไฟระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน

3.4 เดินท่อทองแดงระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน

4. ติดตั้งคอย์ลร้อนที่ตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่แคบจนเกินไป เพื่อการระบายความร้อนที่ดี

  1. ถอดฝาครอบตัวเครื่องออก
  2. ถอดสายไฟที่เชื่อมระหว่างตัวคอยล์เย็นกับคอยล์ร้อนออก
  3. ขันน็อทที่เชื่อมระหว่างคอยล์เย็นกับคอยล์ร้อนออก
  4. ยกตัวแอร์คอยล์เย็นออกจากที่ตั้ง
  5. ถอดที่ยึดตัวแอร์คอยล์เย็นออก

5. ทำการแวคคั่มน้ำยาแอร์

คือ การดูดอาการภายในท่อทองแดงออกให้หมด เพื่อไม่ให้มีความชื่นในตัวท่อ อาจจะส่งผลให้ แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่เย็นอย่างที่ควร

6. หลังจากแวคคั่มเสร็จสิ้น จากนั้นเริ่มการ ปล่อยนำยาแอร์เข้าระบบ ที่ตัวคอยล์ร้อน

ถอดสายไฟที่ตัวคอยล์ร้อนที่เชื่อมต่อระหว่างคอยล์เย็นออกเพื่อทำการถอดตัวแอร์ระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ออกจากกัน

7. เปิดระบบไฟฟ้า เพื่อเปิดเครื่องเทสระบบการทำงานของแอร์

ทำการยกตัวเครื่องคอยล์เย็นลงจากที่ตั้ง เพื่อทำการโยกย้าย ไปที่ตั้งใหม่เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

เสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้งแอร์ โยกย้ายแอร์ สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการติดตั้งแอร์ด้วยตัวเอง เป็นแอร์เครื่องใหม่ หรือจะย้ายตำแหน่งแอร์ในบ้าน ก็สามารถทำตามวิธีข้างต้นได้ แต่หาก

ติดตั้งแอร์

สรุป : ข้อควรระวัง และวิธีการถอดแอร์

วิธีการติดตั้งแอร์ คุณสามารถทำด้วยตอนเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ยังคงจำเป็นต้อง มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา หรือต้องมีการเตรียมการที่รัดกุมและระวังอย่างมาก เพราะในแต่ละขั้นตอน มีการจัดการเชิงเทคนิคค่อนข้างสูงและซับซ้อน OF Air เราจึงมีช่างผู้เชี่ยวชาญ คอยให้บริการ ล้างแอร์ ถอดแอร์ ติดตั้งแอร์ และโยกย้าย แบบครบวงจร

 

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

ข้อควรระวัง และ วิธีการ ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์

ถอดแอร์

ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์

ข้อควรระวัง และวิธีการ ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์มีอะไรบ้าง

ข้อควรระวังในการ ถอดแอร์ มีอะไรบ้าง ?

  1. คุณจำเป็นต้องตัดระบบไฟฟ้า ปิดเบรกเกอร์
  2. ถอดฝา Body ออก ควรระวังอุปกรณ์แตกหัก ชำรุด สูญหาย เช่น จำนวนน็อต เกรียวข้อต่อระวังแตกหัก ระวังบานสวิงแตกหัก
  3. ระวังน้ำในตัวถาดแอร์หยดลงพื้น ทำให้เกิดความชื่นสกปก
  4. ระวังแผงรังผึ่งบาดมือ ทำให้เกิดอันตรายต่อผ้ใช้ได้
  5. ระวังในการถอดท้อทองแดงที่เชื่อมระหว่างคอยล์เย็นไปคอยล์ร้อน เกิดการชำรุด เช่น น็อทรูดผิดรูป (แฟร์รูดในภาษาช่าง)
  6. ขั้นตอนการประกอบอุปกรร์กลับคืนสู่สภาพปกติ ควรระวัง เรื่องน้ำหยด การตั้งระดับของเครื่องอยู่ในระดับมาตรฐานขนานกับพื้น ไม่เอียงซ้ายหรือขวา อาจทำให้เกิดปัญหาน้ำแอร์หยดในอนาคต และอุปกรณ์เสื่อมสภาพ

วิธีการ ถอดแอร์ มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 1.2

1. บล็อกน้ำยาที่ตัวคอยล์ร้อน

เราควรบล็อกน้ำยาแอร์ที่ตัวคอยล์ร้อนก่อน การบล็อกน้ำยาแอร์คือ การปิดระบบน้ำยาแอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของน้ำยา และเพื่อไม่ให้เกิดการเติมน้ำยาแอร์ซ้ำๆ ในรอบถัดไป

ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 2

2. ปิดแอร์ และทำการปิดระบบไฟฟ้าที่เบรกเกอร์ไฟฟ้า

ปิดการทำงานของเครื่องแอร์ และทำการปิดระบบไฟฟ้าที่เบรกเกอร์ไฟฟ้า เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด และเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 3

3. ปูพื้นด้วยผ้า และทำการคลุมผ้าเพื่อป้องกันสิ่งสกปก

ปูพื้นด้วยผ้า และทำการคลุมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วยผ้าเพื่อป้องกันสิ่งสกปก หล่นใส่เฟอร์นิเจอร์
ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 4

4. เริ่มขั้นตอนการ ถอดอุปกรณ์แอร์คอยล์เย็น

  1. ถอดฝาครอบตัวเครื่องออก
  2. ถอดสายไฟที่เชื่อมระหว่างตัวคอยล์เย็นกับคอยล์ร้อนออก
  3. ขันน็อทที่เชื่อมระหว่างคอยล์เย็นกับคอยล์ร้อนออก
  4. ยกตัวแอร์คอยล์เย็นออกจากที่ตั้ง
  5. ถอดที่ยึดตัวแอร์คอยล์เย็นออก
ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 5

5. ขันน็อทที่ทำหน้าที่เชื่อมตัวคอยล์ร้อนกับคอยล์เย็นออก

ขันน็อตที่ทำหน้าที่เชื่อมตัวคอยล์ร้อนกับตัวเครื่องคอยล์เย็นออกจากกัน เพื่อทำการถอดการเชื่อมต่อออกจากัน และง่ายต่อการทำงาน

ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 6

6. ถอดสายไฟที่ตัวคอยล์ร้อนที่เชื่อมต่อระหว่างคอยล์เย็นออก

ถอดสายไฟที่ตัวคอยล์ร้อนที่เชื่อมต่อระหว่างคอยล์เย็นออกเพื่อทำการถอดตัวแอร์ระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ออกจากกัน

ถอดแอร์ โยกย้ายแอร์ 7

7. เคลื่อนย้ายตัวแอร์ ลงจากที่ตั้ง

ทำการยกตัวเครื่องคอยล์เย็นลงจากที่ตั้ง เพื่อทำการโยกย้าย ไปที่ตั้งใหม่เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

เสร็จสิ้นขั้นตอนการถอดแอร์ เพื่อนำไปติดตั้งในตำแหน่งใหม่หลังจากนั้น วิธีการติดตั้งแอร์ในตำแหน่งใหม่ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ติดตั้งแอร์

สรุป : ข้อควรระวัง และวิธีการถอดแอร์

คุณสามารถทำด้วยตนเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ยังคงจำเป็นต้อง มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา คอยให้คำแนะนำ หรือต้องมีการเตรียมการที่รัดกุมและระวังอย่างมาก เพราะในแต่ละขั้นตอน มีการจัดการเชิงเทคนิคค่อนข้างสูงและซับซ้อน OF Air เราให้บริการ ล้างแอร์ ซ่อมแอร์ ติดตั้งโยกย้ายแอร์ และ จำหน่าย

ทุกปัญหาของท่าน เราจัดการให้

นัดหมายล้างแอร์

Line : @OFair

Tel : 02-933-6200

มือถือ : 085-118-3546

โปรโมชั่นพิเศษ วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 เท่านั้น

ดูรายละเอียด การรับโปรโมชั่น

Don`t copy text!